4106 จำนวนผู้เข้าชม |
เรียบเรียง : Pitak Boon
ภาพ : Ferrari S.p.A.
488 GTB เป็นทายาทสืบสานตำนานความแรงถัดจาก 458 Italia เป็นโมเดลเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี ของซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์ V8 วางกลางลำจากค่ายม้าลำพอง โดยแนวคิดตั้งต้นในการพัฒนา คือความเร็วแรง ที่ต้องง่ายต่อการบังคับควบคุม ในระดับที่เจ้าของ 488 GTB สามารถขับใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว ขณะที่ 488 Pista ถูกต่อยอดความโหดมาจาก 488 GTB เป็นเวอร์ชั่นลดน้ำหนัก พร้อมเพิ่มความแรง 488 Pista จึงเป็นไฮเปอร์คาร์บ้าพลังคันล่าสุดจาก FERRARI
แอร์โร่ไดนามิคบนตัวถังของ 488 GTB ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมจาก 458 Italia ซึ่งนั่นช่วยสร้างแรงลมกดบนตัวถังได้ดีขึ้นถึง 50% ในขณะรถวิ่งด้วยความเร็วสูง ดีไซน์ที่ลื่นไหล สวยงาม และดูทรงพลัง บนบอดี้ 488 GTB เป็นผลงานการออกแบบของเจ้าเก่า Pininfarina S.p.A สำนักออกแบบที่ฝากผลงานไว้กับ FERRARI มากมาย ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องดีไซน์ที่ทิ้งห่างคู่แข่งอยู่หลายช่วงตัว แต่ยังมาพร้อมอากาศพลศาสตร์ขั้นเทพ และในหัวข้อนี้ 488 Pista ได้ถูกปรับแต่ง ตัวถังเพิ่มเติมจาก 488 GTB เริ่มต้นด้วยการเพิ่มช่องรับลมก่อนถึงแนวฝากระโปรงหน้า ซึ่งเป็นสูตรเดียวกับ F1 จากนั้นขยายขนาดปีกหลังเพิ่มพื้นที่รับลม ขณะที่ Aero Parts ใต้ท้องรถ ใช้ดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งส่วนหน้าและส่วนหลัง ผลลัพธ์คือ 488 Pista สร้าง Downforce หรือแรงกดบนตัวถัง เพิ่มขึ้นอีก 20% พร้อมน้ำหนักตัวที่ลดลงถึง 90 กิโลกรัม
458 Italia ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4,499 ซีซี แบบหายใจเอง (Naturally Aspirated) ให้แรงม้า 562 hp ที่ 9,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 540 Nm ที่ 6,000 รอบ/นาที ขณะที่ 488 GTB ใช้เครื่องยนต์บล็อกใหม่ ยังคงเป็น V8 ที่ถูกลดขนาดความจุลงมาที่ 3,902 ซีซี แต่เพิ่มพลังแบบจัดหนักด้วย Bi-turbo แรงม้าขยับขึ้นมาเป็น 661 hp ที่ 8,000 รอบ/นาที ส่วนแรงบิดสูงสุดพุ่งขึ้นแตะระดับ 760 Nm ที่ 3,000 รอบ/นาที เครื่องยนต์ V8 Bi-turbo ใน 488 GTB เก็บรางวัล International Engine of the Year มาได้ถึง 2 ปีซ้อน (2016 และ 2017)
แต่สำหรับเครื่องยนต์ของ 488 Pista เป็นอะไรที่สุดขั้วกว่านั้น วิศวกร FERRARI เริ่มต้นโม ด้วยการเปลี่ยนชุดท่อร่วมไอเสีย มาใช้ท่อสูตร Inconel Exhaust Manifolds ขณะที่ร่วมท่อไอดี ถูกแทนที่ด้วย Carbon-fibre Intake Plenums ที่ช่วยเพิ่มอัตราการไหลของอากาศก่อนส่งเข้าห้องเผาไหม้ ในส่วนเพลาข้อเหวี่ยง และล้อช่วยแรง อัพเกรดมาใช้ในรูปแบบ Lightweight ส่งผลโดยตรงในเรื่องของการตอบสนอง แม้จะโมมาตรฐานเครื่องแข่ง แต่บล็อก V8 ของ 488 Pista ยังคงเดินเบาอย่างนุ่มนวล และพร้อมส่งพละกำลังมหาศาลออกมาทันที ที่ผู้ขับแตะคันเร่ง จากการทำงานของชุด Bi-turbo ที่ไม่ปรากฏอาการ Lag ให้สัมผัส
488 Pista พร้อมจัดหนักให้คู่แข่งทุกค่าย ด้วยพละกำลัง 530 kW หรือ 720 hp ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดขยับขึ้นไปที่ 770 Nm ที่ 3,000 รอบ/นาที ประเด็นที่วิศวกรเน้นเป็นพิเศษ คือความเร็วในการตอบสนองหลังจากผู้ขับกดคันเร่ง ซึ่งเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ใน 488 Pista ทำได้เร็วสุดๆ โดยเฉพาะเมื่อทำงานร่วมกับเกียร์คลัตช์คู่ 7 สปีด ที่เซียนของวงการอย่าง GETRAG เป็นผู้พัฒนาให้ ทะยานผ่าน 100 กม./ชม. ด้วยเวลา 2.85 วินาที ผ่านหลัก 200 กม./ชม. ด้วยเวลา 7.6 วินาที ความเร็วสูงสุดเคลมไว้กว่า 340 กม./ชม.