มิตซูบิชิ มอเตอร์ส รายงานผลประกอบการปีงบประมาณ 2560 ระบุแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปีงบประมาณใหม่

489 จำนวนผู้เข้าชม  | 

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประกาศผลประกอบการปีงบประมาณ 2560 ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา และเปิดเผยการคาดการณ์แนวโน้มในปีงบประมาณ 2561 ที่จะสิ้นสุดลงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2562  โดย มร. โอซามุ มาสุโกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ได้กล่าวว่า “ในปีงบประมาณ 2560 ซึ่งเป็นปีแรกของการดำเนินงานตามแผนธุรกิจระยะกลางของบริษัทฯ นั้น นับได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีเยี่ยม เราสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้ แม้เป้าหมายจะได้รับการปรับให้ท้าทายยิ่งขึ้นในระหว่างปีงบประมาณดังกล่าว อีกทั้งเรายังประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ได้แก่ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ และ มิตซูบิชิ อีคลิปส์ ครอสส์”

1. ผลการดำเนินงานที่สำคัญในปีงบประมาณ 2560

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มียอดจำหน่ายสุทธิรวม 2.19 ล้านล้านเยน (ประมาณ 640,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2559 และมีผลกำไรจากการดำเนินงานพุ่งสูงขึ้นถึงระดับ 98,200 ล้านเยน (ประมาณ 28,700 ล้านบาท)  เพิ่มขึ้น 5.1 พันล้านเยน หรือร้อยละ 4.5 เมื่อเทียบกับผลกำไรในปีงบประมาณก่อนหน้า ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้สุทธิ 107,600 ล้านเยน (ประมาณ 31,400 ล้านบาท) จากการดำเนินงานในช่วง 12 เดือน ที่ผ่านมา พลิกฟื้นจากขาดทุนสุทธิ 198,500 ล้านเยน (หรือประมาณ 58,000 ล้านบาท) ในปีงบประมาณ 2559

2. ยอดจำหน่ายรวมของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั่วโลก

ยอดจำหน่ายของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส รวมกันจากทุกประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนหน้า อยู่ที่จำนวน 1,101,000 คัน

สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เป็นจำนวนรวม 275,000 คัน การเติบโตที่แข็งแกร่งนี้ขับเคลื่อนโดยยอดจำหน่าย กระบะพันธุ์เข้ม มิตซูบิชิ ไทรทัน ในประเทศไทย และจากรถอเนกประสงค์ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากหลังจากการเปิดตัวในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา

ยอดจำหน่ายของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศจีนอยู่ที่จำนวน 136,000 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 55 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการผลิต มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ ที่ศูนย์การผลิตในประเทศจีน ในขณะที่ยอดจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่จำนวน 98,000 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 เป็นผลมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นต่อรถเคคาร์ รวมถึงรถยนต์รุ่น อีเค แวกอน และ อีเค สเปซ เช่นเดียวกับ มิตซูบิชิ เดลิกา ดีไฟฟ์ และรถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นอื่นๆ ในตระกูล แอคทีฟเกียร์

ทั้งนี้รถอเนกประสงค์ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ นับเป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นหลักที่ใช้ทำตลาดของ
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส รวมถึง มิตซูบิชิ อีคลิปส์ ครอสส์ ใหม่ ซึ่งเริ่มจำหน่ายในยุโรปเป็นที่แรก และเปิดตัวในภูมิภาคโอเชียเนีย อเมริกาเหนือ และญี่ปุ่น ในลำดับต่อมา

3. แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปีงบประมาณ 2561

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น คาดการณ์ยอดจำหน่ายปีงบประมาณ 2561 ที่จำนวนรวม  1.25 ล้านคัน โดยจะเติบโตร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2560 ขับเคลื่อนโดยยอดจำหน่ายของ มิตซูบิชิ อีคลิปส์ ครอสส์  และมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปีงบประมาณที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ว่าจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในประเทศจีน ซึ่งมีการเพิ่มกำลังการผลิตจากการร่วมทุนรวมถึงการพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย ตลอดจนการฟื้นฟูยอดจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นที่จะช่วยเสริมสร้างการเติบโต

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ได้คาดการณ์แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปีงบประมาณ 2561 ว่าจะมียอดจำหน่ายรวมเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 มาอยู่ที่ 2.4 ล้านล้านเยน (ประมาณ 7 แสนล้านบาท) และคาดการณ์ผลกำไรจากการดำเนินงานที่ 110 พันล้านเยน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 และรายได้สุทธิที่ 110,000 ล้านเยน (ประมาณ 32,100 ล้านบาท) บนปัจจัยอัตราแลกเปลี่ยนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากสภาวะตลาดที่ทวีความรุนแรงขึ้นจากปีก่อน

มร. โอซามุ มาสุโกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “เราจะยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา ทั้งนี้ปีงบประมาณ 2561 เป็นปีที่สองของการดำเนินงานภายใต้แผนธุรกิจระยะกลางของบริษัทฯ จึงนับว่าเป็นปีที่มีความสำคัญยิ่ง แม้เราได้มุ่งขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตและสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญต่อการขยายธุรกิจและการลดต้นทุนการผลิต ซึ่งทั้งหมดนี้คือเป้าหมายของเรา”

เกี่ยวกับการคาดการณ์อนาคต

เนื้อหาจากข่าวประชาสัมพันธ์นี้ นอกเหนือจากข้อเท็จจริงในอดีตแล้วยังครอบคลุมไปถึงการคาดการณ์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลในปัจจุบัน รวมถึงเป้าหมาย แผนงาน และการประเมินการ ตัวเลขและการคาดการณ์ทั้งหมดผ่านการคำนวณและการใช้สมมติฐาน ทั้งนี้ผลการคาดการณ์ดังกล่าวอาจมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนจากปัจจัยในด้านต่าง ๆ ที่อาจส่งผลให้ผลการดำเนินธุรกิจที่เกิดขึ้นจริงแตกต่างไปจากเนื้อหาการคาดการณ์ของบริษัทฯ โดยปัจจัยเสี่ยงที่มีนัยยะสำคัญ ได้แก่

  • ความเป็นไปได้ของเป้าหมายและแผนการที่ระบุในข่าวประชาสัมพันธ์นี้
  • ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน และราคาน้ำมัน
  • การเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมาย ข้อบังคับ และนโยบายของรัฐบาล
  • การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมในระดับภูมิภาคหรือระดับโลก

ปัจจัยความเสี่ยงและความไม่แน่นอนไม่จำกัดเฉพาะปัจจัยที่อ้างถึงนี้ ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ไม่มีภาระผูกพันต่อการแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลในข่าวประชาสัมพันธ์นี้เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ หรือการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

การลงทุนใน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น มีความเสี่ยง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น หรือบุคคลใด ๆ ไม่มีภาระผูกพันต่อความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาการลงทุนที่อ้างอิงจากข้อมูลทีแสดงในข่าวประชาสัมพันธ์นี้

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้