484 จำนวนผู้เข้าชม |
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เฉลิมฉลองอีกหนึ่งความสำเร็จครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์การดำเนินธุรกิจในประเทศไทยหลังจากผลิตรถยนต์ครบ 5 ล้านคันที่ศูนย์การผลิตแหลมฉบัง โดยรถยนต์คันที่ 5 ล้าน คือ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต
พิธีฉลองดังกล่าวได้รับเกียรติจาก ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มร. ชิโร ซะโดะชิมะ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำประเทศไทย และ มร. โอซามุ มาสุโกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุนของไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน รวมถึงแขกผู้มีเกียรติ บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน หุ้นส่วนทางธุรกิจ สื่อมวลชน และพนักงานเข้าร่วมงาน
ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้แสดงความยินดีกับมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่นและ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย สำหรับความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ และรัฐบาลไทยที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี พร้อมกล่าวว่า “ความสำเร็จของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในวันนี้เน้นย้ำบทบาทสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนสู่การเติบโตของประเทศไทย ทั้งนี้การเติบโตและความยึดมั่นต่อการดำเนินธุรกิจของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศไทย รวมถึงความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน จะช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายด้านเศรษฐกิจที่ตั้งไว้ได้”
มร. โอซามุ มาสุโกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ได้กล่าวแสดงความขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและความร่วมมือที่ได้รับจากรัฐบาลไทย โดยได้กล่าวว่า “เรามีความเชื่อมั่นอยู่เสมอในศักยภาพการเติบโตของตลาดประเทศไทย นโยบายในระยะยาวของไทยที่มุ่งสร้างการเติบโตให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์จะมีส่วนสนับสนุนธุรกิจของเราเป็นอย่างดี”
ศูนย์การผลิตแหลมฉบังนับว่าเป็นศูนย์การผลิตนอกประเทศญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เราผลิตได้ถึง 424,000 คันต่อปี และสามารถส่งออกไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลก กำลังการผลิตในประเทศไทยมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนการเติบโตของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในระดับโลก
มร. โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวระหว่างพิธีฉลองครั้งนี้ว่า “เราจะเดินหน้าคิดค้นเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อีกทั้งจะยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรม และยกร ะดับเทคโนโลยีไปพร้อมการพัฒนาบุคลากรของเรา เพื่อความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรอบด้าน เราจะส่งมอบยานยนต์ที่เพียบพร้อมครบครัน มั่นใจได้ในทุกการขับขี่ และมอบอรรถประโยชน์ในการใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งหมดนี้นับเป็นพื้นฐานของการขับเคลื่อนกลยุทธ์ระดับโลกของเรา “Drive your Ambition” พันธสัญญาจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่มีต่อผู้ขับขี่ทุกคน”
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เริ่มต้นดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2504 และผลิตรถยนต์ครบ 1 ล้านคันในปี พ.ศ. 2546 ก่อนจะผลิตครบ 2 ล้านคันในปี พ.ศ. 2553 และผลิตครบ 3 ล้านคันในปี พ.ศ. 2556 ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยได้ผลิตรถยนต์ครบ 4 ล้านคันในปี พ.ศ. 2558 ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น
โดยในจำนวนการผลิต 5 ล้านคันนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ผลิตเพื่อส่งออก 3.7 ล้านคันไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลก โดยก่อนหน้านี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ทำการฉลองการส่งออกรถยนต์ครบ 3 ล้านคันไปเมื่อปี พ.ศ. 2559
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยมีโรงงานผลิตรถยนต์ 3 แห่งในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง โรงงานแห่งแรกเปิดทำการในปี พ.ศ. 2535 และโรงงานแห่งที่สองซึ่งมุ่งเน้นการผลิตรถกระบะขนาดหนึ่งตันเปิดทำการในปี พ.ศ. 2539 มิตซูบิชิ มอเตอร์สได้เข้าร่วมโครงการ Thailand Product Champion โครงการแรกของประเทศ เพื่อสนับสนุนและผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตและการส่งออกรถกระบะ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เข้าร่วมโครงการ Thailand Product Champion ครั้งที่สอง หรือโครงการอีโคคาร์และลงทุนสร้างโรงงานแห่งที่สามซึ่งเริ่มผลิตรถยนต์อีโคคาร์ในปี พ.ศ. 2555 นอกจากนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยยังมีโรงงานผลิตเครื่องยนต์สำหรับจัดจำหน่ายในประเทศและเพื่อการส่งออก
ปัจจุบัน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มีพนักงานมากกว่า 6,650 คน ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจและยกระดับบทบาทของบริษัทฯ ในกลุ่ม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั่วโลก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังพร้อมด้วยศูนย์บรรจุชิ้นส่วนเพื่อการส่งออก สนามทดสอบรถยนต์ และศูนย์การฝึกอบรมแห่งใหม่ในนาม สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย