808 จำนวนผู้เข้าชม |
ข้อมูล : PORSCHE AG.
เรียบเรียง : Pitak Boon
กว่า 30 ปีที่ผ่านมา PORSCHE ได้เผยโฉมรถยนต์ต้นแบบ Boxster รถสปอร์ตสายพันธุ์โรดสเตอร์ ล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบัน ถึงเวลาของ 718 Spyder RS เป็น Roadster เครื่องยนต์วางกลางลำและทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยผลิตมาจากขุมพลัง NA ไร้ระบบอัดอากาศรอบจัด (The high-revving naturally aspirated engine) ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากตัวแรงอย่าง PORSCHE 911 GT3 โดยการพัฒนามุ่งสมรรถนะ และอรรถรสในการขับขี่สูงสุด
718 Spyder RS เป็นรถคู่แฝดของ 718 Cayman GT4 RS ที่ให้พละกำลังสูงสุดกว่า 368 kW (500 PS) เครื่องยนต์ถูกวางในตำแหน่งกลางลำรถสปอร์ตเปิดประทุน (The open-topped mid-engine sports car ) ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รอบสูงและมีน้ำหนักเบา บล็อกเดียวกับรถแข่งตัวแรงอย่าง 911 GT3 Cup โดยน้ำหนักส่วนเกินถูกรีดออกจนเบาเป็นพิเศษ ใช้หลังคาประทุนแบบ soft-top กางและเก็บด้วยระบบแมนวล 718 Spyder RS มาพร้อมเสียงเครื่องยนต์ที่ดุดันจากท่อไอเสียสแตนเลสน้ำหนักเบา ทั้งยังเพิ่มความโหดด้วยช่องรับอากาศขนาดใหญ่ ทั้งแนวด้านข้างตัวถัง และบริเวณหลังพนักพิงศีรษะ
ชุด Powertrain ยกมาจากสปอร์ตคูเป้ 718 Cayman GT4 RS เป็นเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ 6 สูบ ขนาดความจุ 4.0 ลิตร NA รอบเครื่องสูงสุดกว่า 9,000 รอบ/นาที ให้แรงม้า 500 PS แรงบิดสูงสุด 450 Nm ผสานการทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ (PDK) 7 สปีด เซทอัตราทดมาแบบ short-ratio ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 3.4 วินาที และเร่งผ่านหลัก 200 กม./ชม. ด้วยเวลา 10.9 วินาที เมื่อเปรียบเทียบกับ 718 Spyder ที่ไม่มีตัวอักษร RS จะมีพละกำลังเพิ่มขึ้นถึง 80 PS ให้อัตราเร่งออกตัวถึง 100 กม./ชม. เร็วกว่าถึงครึ่งวินาที ความเร็วสูงสุดแตะระดับ 308 กม./ชม. ขณะที่รุ่นพื้นฐานทำได้ที่ 300 กม./ชม.
718 Spyder RS ติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่อัจฉริยะ (PDK) ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่ฉับไวและต่อเนื่อง มาพร้อม Paddle Shift ช่วยให้ทั้งสองมือของผู้ขับขี่ยังสัมผัสกับพวงมาลัยได้ตลอดเวลา แม้ขณะเปลี่ยนเกียร์แบบแมนวล อีกทั้งผู้ขับยังสามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ ได้จากคันเกียร์บริเวณคอนโซลกลางที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ นอกจากเครื่องยนต์อันทรงพลัง น้ำหนักที่ลดลงของ 718 Spyder RS ส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน น้ำหนักตัวของ 718 Spyder RS อยู่ที่ 1,410 กิโลกรัม เบากว่า 718 Spyder รุ่นมาตรฐานที่ติดตั้งระบบเกียร์ PDK ถึง 40 กิโลกรัม และยังเบากว่า 718 Cayman GT4 RS อีก 5 กิโลกรัม
ตัวถังด้านหน้าของ 718 Spyder RS แทบจะไม่แตกต่างจาก 718 Cayman GT4 RS ฝากระโปรงหน้าผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) เพิ่มขนาดของช่องดักอากาศบนกันชนหน้าให้ใหญ่ขึ้น ครีบดักอากาศ NACA ทั้งสองฝั่ง ทำหน้าที่ระบายความร้อนให้แก่ระบบเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (Coefficient of Drag) ครีบ Sideblades บริเวณมุมกันชน มีส่วนช่วยในการสร้างแรงกด ลิ้นสปอยเลอร์หน้ามีขนาดสั้นกว่าของ 718 Cayman GT4 RS เล็กน้อย เมื่อประสานการทำงานกับปีกหลังขนาดใหญ่ สามารถสร้างแรงกดโดยรวมสูงกว่า Cayman การเลือกเพิ่มขนาดของลิ้นสปอยเลอร์ เพื่อเสริมความสมดุลทางแอร์โร่ไดนามิคแทนการใช้ปีก ส่งผลให้รูปทรงของ 718 Spyder RS มีเหลี่ยมมุมที่เฉียบคมในสไตล์ ducktail อุปกรณ์ด้านอากาศพลศาสตร์ทั้งหมดล้วนถูกดีไซน์ให้ทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างสมดุลระหว่างแรงยกและแรกกดบนตัวถัง รวมทั้งให้เสถียรภาพสูงสุดขณะขับขี่ในทุกย่านความเร็ว
718 Spyder RS ติดตั้งหลังคาประทุน single-layer lightweight soft-top น้ำหนักเบาพิเศษ ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนหลัก 2 ชิ้น ได้แก่ แผงบังแดด sun shield และแผ่นกันลม weather deflector อุปกรณ์ทั้งคู่สามารถถอดประกอบได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังสามารถจัดเก็บรวมหรือแยกจากกัน เอาไว้ในรถได้อย่างกลมกลืน และยังสามารถเลือกใช้เพียงแค่แผงบังแดด sun shield เพื่อเป็นหลังคาแบบ ‘Bimini top’ สำหรับป้องกันแสงแดดให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้อีก และเมื่อใช้งานร่วมกับแผ่นกันลม weather deflector และปิดกระจกประตูจนสนิท จะทำหน้าที่เป็นหลังคาป้องกันน้ำฝนได้อย่างสมบูรณ์แบบ โครงหลังคารวมทั้งชิ้นส่วนกลไกมีน้ำหนักเพียง 18.3 กิโลกรัม ซึ่งเป็นน้ำหนักที่เบากว่า 718 Spyder ถึง 7.6 กิโลกรัม และเบากว่า 718 Boxster ถึง 16.5 กิโลกรัม ผู้ขับขี่สามารถลดน้ำหนักตัวรถลงได้ถึง 8 กิโลกรัม ด้วยการถอดหลังคาเก็บไว้ที่บ้าน และขับรถออกไปสัมผัสกับสายลมและแสงแดด ได้ตามสภาพอากาศ
ช่วงล่างของ 718 Spyder RS ใช้ชิ้นส่วนร่วมกับ 718 Cayman GT4 RS และ 718 Spyder มาพร้อมระบบควบคุมการทำงานของช่วงล่าง Porsche Active Suspension Management (PASM) ซึ่งได้รับการปรับแต่งใหม่ โดยลดระดับความสูงลง 30 มิลลิเมตร เสริมด้วยระบบ Porsche Torque Vectoring (PTV) และเฟืองท้าย limited-slip differential รวมทั้ง ball-jointed suspension bearings ยกระดับความหล่อด้วยล้อ forged aluminium ขนาด 20 นิ้ว เซทติ้งใหม่เน้นความแม่นยำของพวงมาลัย โดยยังคงไว้ซึ่งความปราดเปรียวคล่องตัว และการบังคับควบคุมที่เป็นธรรมชาติ ความสูงใต้ท้องรถ, มุม camber, ความกว้างฐานล้อ และเหล็กกันโคลง anti-roll bar สามารถปรับตั้งได้อย่างอิสระ เมื่อเปรียบเทียบกับ 718 Cayman GT4 RS ค่าความแข็งของสปริงและโช้คอัพ ได้รับการปรับแต่งให้ลดลง เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวลผ่อนคลายยิ่งขึ้น โดยการ set-up ตัวรถจะเป็นไปตามบุคลิกเฉพาะตัวของรถเปิดประทุน
อารมณ์สปอร์ตคือสิ่งที่ได้รับการถ่ายทอดไปสู่บรรยากาศภายในห้องโดยสาร โดยมุ่งเน้นการลดฟังก์ชันที่ไม่จำเป็น และเพิ่มการใช้งานที่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ พวงมาลัย RS sports หุ้มด้วยวัสดุ Race-Tex พร้อมมาร์คแถบสีเหลืองที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา เบาะนั่ง full bucket seats น้ำหนักเบาจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) ในลวดลาย carbon- weave รองรับสรีระของผู้ขับขี่ได้อย่างลงตัว ตัวเบาะหุ้มด้วยหนังแท้สีดำ ขณะที่ช่วงกลางของเบาะหุ้มด้วยวัสดุ Race-Tex ที่ให้ความแตกต่างของเฉดสีพื้นหลัง ซึ่งเลือกได้ทั้งสีเทา Arctic Grey หรือสีแดง Carmine Red พร้อมตราสัญลักษณ์ ‘Spyder RS’ ประทับบนหมอนรองศีรษะด้วยสีเดียวกับตัวเบาะ แผงคอนโซล และชิ้นงานตกแต่งภายในหุ้มด้วยหนังแท้ ทั้งนี้สามารถเลือกสีตัวถังภายนอกได้หลากหลาย ตั้งแต่สีปกติ 4 สี, สีเมทาลิก 3 สี รวมทั้งสีใหม่ล่าสุด Vanadium Grey Metallic และสีพิเศษ Arctic Grey, Shark Blue และ Ruby Star Neo อีกด้วย
718 Spyder RS มีราคาจำหน่าย เริ่มต้นที่ 16,500,000 บาท กำหนดเปิดตัวครั้งแรกของโลกในเดือน มิถุนายน พร้อมวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี ของ PORSCHE ณ โรงงาน Stuttgart-Zuffenhausen และหลังจากนั้นจะถูกนำไปเผยโฉมที่งาน Goodwood Festival of Speed ประเทศอังกฤษ ต่อไป