BMW i7 M70 xDrive || ตัวท็อปในสายการผลิต ผลงานจาก BMW M GmbH
1204 จำนวนผู้เข้าชม |
ข้อมูล : BMW Group.
เรียบเรียง : Pitak Boon
660 hp คือ แรงม้ารวมจาก Luxury BEV รุ่นสูงสุดจาก BMW ในชื่อรุ่น ‘i7 M70 xDrive’ เป็นหนึ่งในผลงานจาก BMW M GmbH เปิดตัวครั้งแรกในงาน Auto Shanghai international motor show 2023 เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ว่ากันว่างานโชว์รถสุดยิ่งใหญ่จากจีนปีนี้ ถูกใช้เป็นเวทีแสดงแสนยานุภาพของยานยนต์ไฟฟ้าจากทุกค่ายทั่วโลก ทั้งจากแบรนด์จีนแผ่นดินใหญ่ ค่ายเยอรมัน ค่ายยุโรป ค่ายอเมริกัน รวมทั้งรถไฟฟ้าญี่ปุ่นที่เริ่มขยับตามรถไฟฟ้าจากจีนกันบ้างแล้ว
i7 เป็นการก้าวเข้าสู่เจนที่ 7 ของตระกูล 7 Series โดยใช้รหัสโมเดล G70 โดย 7 Series โมเดลใหม่เปิดตัวมาพร้อมกันทั้ง 3 รูปแบบชุดขับเคลื่อน ได้แก่ รถ IECV (Internal Combustion Engine Vehicle) ใช้เครื่องยนต์สันดาปพร้อมเทคโนโลยี 48V mild hybrid, รถกลุ่ม PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นอีกนิด รองรับการเสียบปลั๊กชาร์จไฟ และติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าระดับ 200 hp ซึ่งมีกำลังมากพอ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้แรงขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ในหลาย ๆ สถานการณ์การขับขี่ และ i7 ยานยนต์ไฟฟ้า BEV (Battery Electric Vehicle) เป็น Pure EV ซึ่งมาพร้อมแบตเตอรี่ลูกใหญ่ขนาด 101.7 kWh
จากรถไฟฟ้า i7 xDrive60 ที่เปิดตัวมาก่อน เมื่อมาผ่านมือ BMW M GmbH เปลี่ยนชื่อไปเป็น i7 M70 xDrive แม้จะแรงขึ้น แต่ยังปล่อย CO2 ในระดับ 0 กรัม/กิโลเมตร ไม่เปลี่ยนแปลง (ต่างจากรถน้ำมัน) ขับเคลื่อนด้วย BMW eDrive System ที่พัฒนามาจนถึงเจนที่ 5 สำหรับ i7 xDrive60 และ i7 M70 xDrive จัดเต็มด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว แยกกันขับเคลื่อนล้อหน้า และล้อหลัง ในรูปแบบ AWD อันเป็นที่มาของระบบขับเคลื่อน xDrive จาก BMW นั่นเอง
ใน i7 xDrive60 มอเตอร์ด้านหน้ามีแรงม้า 190 kW(258 hp) ที่ 8,000-17,000 รอบ/นาที แรงบิด 365 Nm ที่ 0-5,000 รอบ/นาที ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์ single-speed อัตราทด 8.770:1 เพื่อไปขับเคลื่อนล้อหน้า ขณะที่มอเตอร์ด้านหลังมีพละกำลัง 230 kW(313 hp) ที่ 8,000-17,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 380 Nm ที่ 0-5,000 รอบ/นาที ส่งต่อกำลังผ่านเกียร์ single-speed อัตราทด 9.400:1 เพื่อไปขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังรวมของ BMW i7 xDrive60 ระบุไว้ที่ 400 kW(544 hp) แรงบิดสูงสุด 745 Nm ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุดล็อคไว้ที่ 240 กม./ชม.
สำหรับ i7 M70 xDrive ส่วนของมอเตอร์ด้านหน้าไม่มีความเปลี่ยนแปลง ขณะที่มอเตอร์ด้านหลังอัพพลังไปเป็น 360 kW(489 hp) ที่ 13,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 650 Nm ที่ 0-5,000 รอบ/นาที ส่งต่อกำลังผ่านเกียร์ single-speed อัตราทด 8.765:1 เพื่อไปขับเคลื่อนล้อหลัง โดยกำลังรวมของ BMW i7 M70 xDrive เคลมมาที่ 485 kW(660 hp) แรงบิดสูงสุดมหาศาลถึง 1,100 Nm ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.7 วินาที เร็วขึ้นถึง 1 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม.
i7 M70 xDrive ใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 101.7 kWh (net) วางในตำแหน่งใต้พื้นห้องโดยสาร เซลล์แบตเตอรี่ได้รับการปกป้องด้วยเคสอะลูมิเนียม ภายในตัวเรือนแบตเตอรี่ติดตั้งระบบหล่อเย็นแบบ Liquid Cooling ใช้ของเหลวในการระบายความร้อนเพื่อควบคุมอุณหภูมิในทุกสภาพการใช้งาน ให้แรงเคลื่อนไฟฟ้า 376.4 โวลต์ ชุดแบตมีน้ำหนักราว 500 กิโลกรัม จากน้ำหนักรวมของ i7 M70 xDrive ทั้งคันที่ 2,695 กิโลกรัม (คิดเป็น 18.55% ของน้ำหนักทั้งหมด) แบตเตอรี่มาพร้อมการรับประกัน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร
เทคโนโลยีการชาร์จไฟใน i7 M70 xDrive สามารถลดข้อจำกัดเดิม ๆ ในการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าลงได้เบ็ดเสร็จ กับการเสียบชาร์จจากไฟบ้าน 3 เฟส ผ่าน BMW Wallbox (AC) ขนาด 22 kW สามารถชาร์จไฟจาก 0-100% ได้ภายใน 5.5 ชั่วโมง และหากชาร์จผ่าน DC fast-charging station 195 kW (Max.) จะชาร์จไฟจาก 10-80% เร็วเพียง 34 นาที โดยการชาร์จ 10 นาที รถวิ่งได้ถึง 170 กิโลเมตร (WLTP) และเมื่อชาร์จแบตเต็ม i7 M70 xDrive จะเดินทางราว 488-560 กิโลเมตร (WLTP)
i7 M70 xDrive ใช้ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ Double-wishbone ด้านหลังใช้แบบ Five-link โครงสร้างช่วงล่างทั้งชุดเป็นอะลูมิเนียม มาพร้อม Air Suspension หรือช่วงล่างถุงลมที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องความนุ่มนั่งสบาย และเปลี่ยนเป็นความเฟิร์มได้ทันที เมื่อรถใช้ความเร็วสูงขึ้น ระบบบังคับเลี้ยวมาพร้อมฟังก์ชัน IAS (Integral Active Steering) หรือล้อหลังช่วยล้อหน้าหักเลี้ยว (ล้อหลังหักเลี้ยวไม่เกิน 3.5 องศา) เพื่อลดรัศมีวงเลี้ยวซึ่งเป็นปัญหาของรถที่มีตัวถังยาวเกินกว่า 5 เมตร ปิดท้ายด้วยระบบ Active Roll Stabilisation ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า (Electric Swivel Motors) มาบิดที่เส้นเหล็กกันโคลง เพื่อปรับเปลี่ยนค่าความแข็ง ช่วยลดอาการโคลงของรถขณะอยู่ในโค้ง หรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน
i7 M70 xDrive นอกจากจะโดดเด่นเรื่องไร้มลพิษ ยังจัดเต็มเรื่องความหรูหราไฮคลาส ให้ความสบายสูงสุดในการเดินทาง ตามมาตรฐานรถระดับเรือธงจาก BMW ในแง่สมรรถนะจัดเต็มมาในระดับเดียวกับรถตระกูล M ประเด็นสำคัญ ให้ความคล่องตัวในการใช้งานไม่แตกต่างจากรถน้ำมัน
