FERRARI SF90 XX Stradale & Spider || 1,030 PS รถแข่งในคราบรถถนน

ข้อมูล : Ferrari S.p.A.
เรียบเรียง : Pitak Boon

SF90 XX Stradale และ Spider ถูกพัฒนาภายใต้โปรแกรม XX จาก FERRARI เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์อันไร้ขีดจำกัดบน track ขณะเดียวกันตัวรถก็พร้อมวิ่งใช้งานบนถนนอย่างถูกกฎหมาย โดยความต่างของตัวถัง Stradale และ Spider อยู่ที่รูปแบบหลังคา เริ่มต้นกับหลังคาปิดสไตล์รถคูเป้ และหลังคา RHT (Retractable Hart Top) หรือรถเปิดประทุนในรูปแบบหลังคาแข็ง ตามลำดับ โดยทั้งคู่ได้รับการต่อยอดมาจากโมเดล SF90 ซึ่งเป็นรถ PHEV ที่ทรงพลังระดับพันม้า ผลลัพธ์คือ SF90 XX เร็วขึ้น 0.25 วินาที กับเวลาต่อรอบในสนาม Fiorano ณ บ้านเกิดของ FERRARI

ไม่เฉพาะเพียงเรื่องพละกำลัง แต่ SF90 XX ได้รับการอัพเกรดทั้ง ลดน้ำหนัก แอร์โร่ไดนามิค ซอฟต์แวร์ควบคุมชุดขับเคลื่อน ต่อเนื่องไปจนถึงแชสซี (Ferrari Dynamic Enhancer 2.0) ที่จะยอมให้ตัวรถปล่อยความฮาร์ดคอร์ได้มากยิ่งขึ้น ขณะที่เซ็นเซอร์ 6W-CDS ก็ให้การตอบสนองที่ละเอียด แม่นยำ และฉับไว เพื่อรองรับการขับขี่ที่หนักหน่วงบน track ทั้งการเร่ง และการเบรก รวมถึงการเข้าและทะยานออกจากโค้ง ในส่วนของงานแอร์โร่ไดนามิคทีมออกแบบรีดีไซน์ เพื่อสร้างสมดุลระหว่าง 2 เงื่อนไข คือ LD (Low Drag) และ HD (High Downforce) หรือการลดแรงต้านอากาศขณะออกตัว หรือขณะรถวิ่งด้วยความเร็วต่ำ และสร้างแรงกดบนตัวถังสูงสุดขณะรถใช้ความเร็วสูง จากพอร์ทต่าง ๆ และปีกหลังคาร์บอนไฟเบอร์ชิ้นใหญ่ SF90 XX สามารถสร้าง downforce ได้มากถึง 315 กิโลกรัม เมื่อรถใช้ความเร็วกว่า 250 กม./ชม. ภาพรวมจากการอัพเกรดตาม XX Programme ชุดเซ็นเซอร์ให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 9% ซึ่งทาง FERRARI เคลมว่าในส่วนของ Body Control ในทุกย่านความเร็วจะดีขึ้นถึง 10%

 

SF90 XX เปิดตัวเลขจากขุมพลังไฮบริดระดับ 1,030 PS ซึ่งมากกว่า SF90 เวอร์ชันมาตรฐานอยู่ 30 PS โดยแรงม้าทั้งหมดมาจาก Engine + 3 Electric Motors ตัวเครื่องยนต์ใช้บล็อก F154FB เป็นเครื่อง V8 เสื้อสูบทั้ง 2 ฝั่ง วางทำมุม 90 องศา ขนาดความจุรวม 4 ลิตร (3,990 ซีซี) อัตราส่วนกำลังอัด 9.54:1 จากนั้นมาอัพพลังต่อด้วย Twin Turbo ตัวเครื่องยนต์ได้รับการปรับปรุงวงจรหล่อเย็น โฟกัสไปที่หม้อน้ำด้านหน้าซึ่งเป็นวงจร High Temperature ด้วยการใช้กระแสลมเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อน ทั้งการดักลมจากด้านหน้า และการระบายลมออกบนพอร์ทขนาดใหญ่บนฝากระโปรง ต้นกำลังเชื้อเพลิงฟอสซิลให้แรงม้า 797 PS (586 kW) ที่ 7,900 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดมหาศาลถึง 804 Nm ที่ 6,250 รอบ/นาที รอบเครื่องสูงสุดถูกล็อคไว้ที่ 8,000 รอบ/นาที เครื่องยนต์วางในตำแหน่งกลางลำ ระหว่างเครื่องยนต์กับเกียร์ F1 DCT 8 สปีด ถูกขั้นกลางด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าอีก 2 ตัว วางไว้ที่ด้านหน้าเพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อหน้า (E4WD)
 

กำลังรวมจากมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่ที่ 233 PS (171 kW) ถูกจับคู่กับแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 7.9 kWh รองรับการขับเคลื่อนในโหมดไร้มลพิษได้ไกล 25 กิโลเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าทำความเร็วได้สูงสุด 135 กม./ชม. ผู้ขับสามารถเลือกโหมดการขับขี่ของ SF90 XX ได้ตามความต้องการ จากสวิตช์ eManettino บนพวงมาลัยจำนวน 4 โหมด ได้แก่ eDrive Mode เครื่องยนต์ ICE หยุดทำงาน มอเตอร์คู่หน้ารับหน้าที่ขับเคลื่อนรถ, Hybrid Mode สมองกลเข้ามาควบคุม เพื่อสร้างสมดุลในการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งรองรับการทำงานตั้งแต่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% ไล่เรียงไปจนถึงเครื่องยนต์ถูกสตาร์ทขึ้น แต่ทำหน้าที่เพียงปั่นไฟสำรองพลังงานเข้าระบบ และเครื่องยนต์ขับเคลื่อนรถเต็มรูปแบบ, Performance Mode ต่อเนื่องจากโหมดไฮบริด โดยเครื่องยนต์จะมีบทบาทมากขึ้นในการปลดปล่อยแรงม้าจาก SF90 XX และ Qualifying ปรับทุกองค์ประกอบเพื่อพา SF90 XX ทะยานผ่านทุกข้อจำกัด เป้าหมายคือความเร็ว และเวลาต่อรอบที่ดีที่สุด
 
นอกจากการเพิ่มสัดส่วนของคาร์บอนไฟเบอร์ในหลายส่วนของตัวถัง เบาะนั่งของ SF90 XX ยังใช้โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ด้วยเช่นกัน เน้นความกระชับตามสรีระของผู้ขับแต่ละท่าน แต่ยังคงความสบายเมื่อต้องขับขี่ยาวนาน ตัวเบาะเบาขึ้น 1.3 กิโลกรัม/ตัว เมื่อเทียบกับ SF90 เวอร์ชันมาตรฐาน ขณะที่จานเบรกจัดเต็มมาจากโรงงานระดับเดียวกับตัวแข่ง เป็นจานเบรก CCM ที่โดดเด่นเรื่องการระบายความร้อน คู่หน้าขนาด 398 x 38 มิลลิเมตร คู่หลัง 390 x 32 มิลลิเมตร ปิดท้ายด้วยสมรรถนะ SF90 XX ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เร็วสุด ๆ เพียง 2.3 วินาที ผ่านหลัก 200 กม./ชม. ใช้เวลา 6.5 วินาที และความเร็วสูงสุด 320 กม./ชม.