892 จำนวนผู้เข้าชม |
"การกีฬาแห่งประเทศไทย" จรดปากกาเซ็นสัญญากับ "ดอร์น่า สปอร์ต" เป็นเจ้าภาพ โมโตจีพี 3 ปีติดต่อกัน ระหว่างปี 2561-2563 เริ่มต้นตุลาคมปีหน้าที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ พร้อมจัดทดสอบวินเทอร์เทสต์ในเดือนกุมภาพันธ์ คาดการณ์ผู้เข้าชมมากกว่า 200,000 คน สร้างเม็ดเงินสะพัดทั่วประเทศจากการท่องเที่ยวกว่าพันล้านบาท
พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เดินทางเป็นประธานในพิธีลงนามเซ็นสัญญาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี ระหว่าง นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และ มร.คาร์เมโล เอซเปเลต้า ซีอีโอ ของ ดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์ โมโตจีพี เพื่อจัดการแข่งขันในเมืองไทยเป็นเวลา 3 ปี ติดต่อกัน ในปี 2561-2563 โดยมี นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในนามรัฐบาลไทยร่วมเป็นสักขีพยานการบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งนี้
การเซ็นสัญญาดังกล่าวจะทำให้ประเทศไทยก้าวเข้ามาเป็น 1 ใน 19 สังเวียนของโลก ที่ใช้ดวลความเร็วศึกโมโตจีพี ในปี 2561 เบื้องต้นกำหนดการแข่งขันไว้ในสุดสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคมปีหน้า ซึ่งถือเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการลุ้นแชมป์ โดยจะมีความเข้มข้นในการแข่งขันอย่างมาก ซึ่งจะมีขึ้นที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ขณะเดียวกัน ประเทศไทย ยังถูกเลือกให้เป็นสนามทดสอบช่วงวินเทอร์เทสต์ ซึ่งเป็นปฏิทินสำคัญในการพัฒนารถแข่งของแต่ละทีม โดยจะมีขึ้นในวันที่ 16-18 กุมภาพันธ์ปีหน้า
พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ในวันนี้รัฐบาลขอขอบคุณทุกภาคส่วนในประเทศไทยที่ร่วมกันผลักดันให้เกิดความสำเร็จครั้งนี้ ขอบคุณ มร.คาร์เมโล ที่เดินทางมาถึงเมืองไทย นี่คือการประกาศความยิ่งใหญ่ของไทยในการจัดการแขง่ขันกีฬาระดับโลก โมโตจีพี ที่จะแข่งขันในไทย 3 ปี นักท่องเที่ยวทั่วโลกจะเดินทางมาเพิ่มขึ้นแน่นอน รายได้จะเพิ่มขึ้นมหาศาล เราต้องทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี และเตรียมความพร้อมให้เต็มร้อยที่สุด ผมได้เดินทางไปเยี่ยมชมสนามและ จ.บุรีรัมย์ เราได้เห็นความสมบูรณ์ ส่วนความพร้อมด้านต่าง ๆ ในภาคอีสาน เราจะยกระดับให้สมบูรณ์แบบที่สุด ขอบคุณ ดอร์น่า ที่ยกสิทธิ์จัดการแข่งขันให้เรา รวมถึง วินเตอร์เทสต์ ด้วย ซึ่งจะสร้างสิ่งใหม่ ๆ ให้กับประเทศไทย ทั้งหมดของความสำเร็จครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพราะรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว แต่หมายถึงภาคเอกชน รวมถึงนักกีฬาทุกคน และคนไทยทั้’ประเทศทุกคนด้วย”
มร.คาร์เมโล เอซเปเลต้า ซีอีโอ ดอร์นา สปอร์ต เผยว่า “ขอบคุณประเทศไทย นี่คือความร่วมมือที่น่ายินดีมาก เป็นเกียรติอย่างกับการเดินทางมาเซ้นสัญญาครั้งนี้ ซึ่งเรามีการเจรจามาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งนี่จะเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยกับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก”
สำหรับ โมโตจีพี ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1949 บริหารงานโดยโปรโมเตอร์ระดับโลกอย่าง ดอร์น่า สปอร์ต รับรองการแข่งขันโดยสมาพันธ์จักรยานยนต์นานาชาติ หรือ เอฟไอเอ็ม นับเป็นการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน ด้วยรูปแบบการแข่งขันที่ตื่นเต้นเร้าใจจากลีลาของนักบิดชั้นนำของโลก และทีมแข่งทุกทีมต้องเดินทางมายังประเทศไทย นำโดย วาเลนติโน รอสซี่ และ มาเวริค บีญาเลส จาก โมบิสตาร์ ยามาฮ่า โมโตจีพี, มาร์ค มาร์เกซ และแดนี เปโดรซ่า จาก เรปโซล ฮอนด้า รวมถึง ฮอร์เก ลอเรนโซ และ อันเดรีย โดวิซิโอโซ จาก ดูคาติ ทีม เป็นต้น
ขณะเดียวกัน โมโตจีพี ยังถูกยกเป็นเป็นศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกที่มีเทคโนโลยีสูงที่สุด จากการเข้าร่วมประลองความเป็นหนึ่งของค่ายผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ อาทิ ฮอนด้า, ยามาฮ่า, ซูซูกิ, ดูคาติ, เคทีเอ็ม และอพริเลีย ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวจะถูกนำมาพัฒนาสู่การใช้งานจริงในท้องถนนต่อไป
ในปี 2560 โมโตจีพี เดินทางแข่งขันทั้งสิ้น 18 สนามทั่วโลก ออกสตาร์ทฤดูกาลช่วงปลายเดือนมีนาคม และขับเคี่ยวอย่างเข้มข้นไปจนถึงสนามสุดท้ายในเดือนพฤศจิกายน ปัจจุบันมีนักบิดเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 87 คน แบ่งเป็น โมโตจีพี 24 คน, โมโตทู 32 คน และ โมโตทรี 31 คน โดยมีแฟนความเร็วติดตามกว่า 800 ล้านคน จาก 207 ประเทศที่ได้รับสัญญาณถ่ายทอดสด
ปัจจุบัน มีนักบิดไทยหนึ่งเดียวอย่าง "ชิพ" นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย ซึ่งลงแข่งขันในรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2560 และกำลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ล่าสุดรั้งอันดับ 2 บนตารางแชมเปี้นชิพประเภทนักบิดหน้าใหม่ (Rookie Cup)
ทั้งนี้ การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทาเงรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี รายการ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ เป็นเวลา 3 ปี ระหว่างปี 2561-2563 จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในประเทศมอเตอร์สปอร์ตชั้นนำของโลก พร้อมกับส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศทั้งในด้านการท่องเที่ยว กีฬา และเศรษฐกิจ ตามยุทธศาสตร์ "สปอร์ตทัวริซึ่ม" ของรัฐบาลไทย