จากเภสัชกร สู่เจ้าของแบรนด์ผ้าพันคอออนไลน์เงินล้าน "Zoe Scarf"

11195 จำนวนผู้เข้าชม  | 

          ใครที่ชื่นชอบผ้าพันคอคงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่รู้จัก “โซอี้ สคาร์ฟ” (Zoe Scarf) ผ้าพันคอแบรนด์ดังติด Top 5 ของประเทศไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักในโลกโซเชียลอย่างกว้างขวาง จนสามารถขึ้นห้างดังของเมืองไทย และส่งออกจำหน่ายถึง 8 ประเทศทั่วโลก แล้วอะไรคือแรงบันดาลใจที่ทำให้เธอผู้นี้ประสบความสำเร็จใน “ธุรกิจออนไลน์”



          เภสัชกรหญิงโสภา พิมพ์สิริพานิชย์ หรือ “โซอี้” อดีตเภสัชกรสาวสวย ที่สร้างแบรนด์ผ้าพันคอจากทุนเริ่มต้น 3 หมื่นบาท จนกระทั่งสามารถสร้างกำไรหลักล้านด้วยระยะเวลาเพียง 3 ปี ด้วยการใช้เวลา 1 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้นในการสร้างธุรกิจนี้

          โซอี้ จบการศึกษาปริญญาตรี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เธอเลือกเรียนทางด้านเภสัชศาสตร์ เพราะอยากช่วยแบ่งเบาภาระที่บ้านซึ่งทำธุรกิจขายยาและขายโชห่วย โดยมีเป้าหมายคืออยากช่วยเหลือคนและสานต่องานที่บ้าน แต่ด้วยความขยันบวกกับความตั้งใจในระหว่างเรียน ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ทั้งเล่นละคร ร้านอาหารญี่ปุ่น เปิดท้ายขายของ เป็นผู้จัดการร้านอาหาร ทำธุรกิจเครือข่าย MLM (Multi Level Marketing) ซึ่งเหล่านี้กลายเป็นใบเบิกทางในการเลือกที่ทำงาน เพราะมีประสบการณ์มากมาย เมื่อเรียนจบเธอจึงได้งานเป็นคนแรกของรุ่น สมัครงาน 8 บริษัท ทุกบริษัทรับหมด โดยโซอี้เลือกเป็นผู้แทนยาที่ บริษัท Astra Zeneca (Thailand) Co.,Ltd. ซึ่งเป็นบริษัท Top 5 ของบริษัทยาระดับโลก ระหว่างทำงานโซอี้ได้เป็น Top Sale ตั้งแต่เดือนแรก ได้เงินเดือนหลักแสน และหลังจากทำงานได้ 2 ปี จึงเปลี่ยนบริษัท ไปอยู่ บริษัท Pfizer (Thailand) Co.,Ltd. ซึ่งในขณะนั้นก็เป็นบริษัทยาอันดับ 1 ของโลก

          กระทั่งถึงจุดเปลี่ยนของชีวิต วันหนึ่งเธอป่วยเป็นซีสต์ที่รังไข่ จนต้องผ่าตัดด่วน ตอนนั้นเองโซอี้คิดว่าต้องทำให้ชีวิตตัวเองมั่นคง จึงตัดสินใจลาออกไปสร้างธุรกิจส่วนตัวด้วยการขายผ้าพันคอออนไลน์ และนี่คือจุดเริ่มต้นจากธุรกิจออนไลน์สู่ออฟไลน์



          “ตอนนั้นโซอี้ก็คิดว่าเราจะเป็นเนื้อร้ายไหม เราจะอยู่ต่อไปไหม เหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้นกับเรา เพราะเราอายุแค่ 26 ก็เลยคิดว่า เป้าหมายในชีวิตเราคืออะไร ซึ่งเป้าหมายของโซอี้คือ อยากให้ป๊ากับม๊าชีวิตที่สุขสบาย คำหนึ่งที่ป๊าพูดแล้วโซอี้จำมาใช้ตลอดชีวิตเลยก็คือ “ชีวิตเราเรียนถูกอย่างเดียวไม่ต้องเรียนผิด” เพราะว่าคนเรียนผิด เขาเรียนผิดมาให้ดูเยอะแล้ว วันนี้อยากจะสำเร็จในเรื่องไหนให้ศึกษาจากคนที่สำเร็จแล้วในเรื่องนั้น ป๊าก็เลยแนะนำให้รู้จักเพื่อนเขาคนหนึ่งที่กรุงเทพฯ โดยให้โซอี้ไปศึกษาเรื่องอสังหาริมทรัพย์กับเขา จนทุกวันนี้โซอี้หลับตาก็รู้เลยว่าแปลงไหนปลูกขึ้นไม่ขึ้น หลังจากนั้นผ่านไป 11 เดือน โซอี้สร้างตึกให้ป๊ากับม๊าเสร็จ ระหว่างการสร้างนั้นเป็นงานใหม่ซึ่งเราไม่เคยเรียนทางด้านสถาปัตย์ ไปคุมผู้รับเหมา โซอี้จึงได้เรียนต่อปริญญาโท คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ทำเป้าหมายนั้นจนสำเร็จ และย้ายครอบครัวจากปากช่องมาอยู่ที่กรุงเทพฯ”

            จุดเปลี่ยนของโซอี้ที่ได้มาทำผ้าพันคอแบรนด์ “โซอี้ สคาร์ฟ” คือ โซอี้แต่งงานมาอยู่ในตระกูลที่ทำธุรกิจกงสีขนาดใหญ่ พอแต่งงานมาก็อยากจะสร้างผลงาน แต่ด้วยความที่บริษัทเค้าเปิดมากว่า 40 ปีแล้ว ระบบทุกอย่างเรียกว่าสมบูรณ์แบบ

          “ช่วงนั้นเริ่มมีการขายของออนไลน์ เราจึงเริ่มนำเข้าของจากไต้หวันเข้ามาขาย ทำเป็นพรีออเดอร์ ซึ่งขายดีมาก จนวันหนึ่งมาคิดว่าขายไปก็ไม่มีกำไรเพราะมีภาษีนำเข้า ก็เลยคิดว่าต้องสร้างแบรนด์ตัวเองแล้วล่ะ ตอนนั้นก็คิดว่าจะทำอะไรดี จนกระทั่งไปเปิดตู้เสื้อผ้าพบว่าเราสะสมผ้าพันคอเยอะมาก ตั้งแต่หลักสิบจนถึงผืนหลักหมื่น โดยพื้นฐานเป็นคนชอบงานดีไซน์ และชอบเทคเจอร์เนื้อผ้า งานคาร์ฟชอบมาก ก็เลยมองว่านี่แหละ เราอยากทำผ้าพันคอสวย ๆ ลายสวย ๆ ก็เลยเริ่มทำมาจนกระทั่ง 4 ปีแล้ว  



          แบรนด์ผ้าพันคอเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยโซอี้ใช้เวลา 6 เดือน เข้าห้างทั่วประเทศ อาทิ เอ็มโพเรียม พารากอน คิงพาวเวอร์ เป็นต้น และ 8 เดือน ส่งออก 8 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ สำหรับประเทศที่ขายดีสุดคือ ประเทศจีน รองลงมาคือ ไต้หวัน”

          เมื่อแบรนด์เราเป็นที่รู้จักโซอี้ได้รับเชิญไปบรรยายทั้งในองค์กรภาครัฐและเอกชน เรื่องการตลาดออนไลน์ ทางสำนักพิมพ์ได้ชวนโซอี้ทำหนังสือ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำหนังสือเล่มแรกคือ [แอบทำ] 1 ชั่วโมงต่อวัน ฝันเปลี่ยน สูตรสำเร็จเคล็ดสร้างล้าน ซึ่งเป็นหนังสือขายดี ได้ขึ้น Best Seller นานกว่า 4 เดือน ล่าสุดปีที่แล้ว โซอี้เป็นคนแรกของประเทศไทยที่ได้ Line@ Certified trainer ก็เลยออกหนังสืออีกเล่มหนึ่งคือ สร้างโลกธุรกิจใหม่ด้วย LINE@



          ปัจจุบัน โซอี้ ทำงานทั้งหมดอยู่ 3 อย่าง อย่างแรก คือ เจ้าของแบรนด์ผ้าพันคอ โซอี้ สคาร์ฟ สองคือ เป็นวิทยากรทางด้านการตลาดออนไลน์ และสามคือ เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีแอล อินโนเวชั่น จำกัด (โรงงานผลิตเครื่องสำอาง)

          “ส่วนเป้าหมายของ “โซอี้ สคาร์ฟ” คือ Top Thai Brand Premium Scarf คือ ถ้าคนไทยหรือคนต่างประเทศนึกถึงพรีเมี่ยม สคาร์ฟ ต้องนึกถึงแบรนด์โซอี้ค่ะ” เจ้าของแบรนด์คนเก่ง กล่าวทิ้งท้าย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้