522 จำนวนผู้เข้าชม |
องค์การเภสัชกรรมเดินหน้ากระจายวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ให้แก่โรงพยาบาลและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ จำนวน 3.4 ล้านโด๊ส ให้ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดฟรี
นพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า หลังจากที่ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้นำคณะเข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และสื่อมวลชน เพื่อให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ พร้อมประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ประจำปี 2561 โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยงให้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรี ทั้งนี้ เพื่อลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนและลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วย
ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมวัคซีนฯไว้ในเบื้องต้น จำนวน 405,000 โด๊ส และองค์การเภสัชกรรมได้จัดหาและสนับสนุนให้กับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ไว้อีกจำนวน 3.4 ล้านโด๊ส ทั้งนี้องค์การฯมีหน้าที่ในการกระจายวัคซีนฯไปยังโรงพยาบาลและสถานบริการของกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ โดยที่ผ่านมาการกระจายวัคซีนฯอาจจะล่าช้าไปบ้าง เนื่องจากต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตาม พรบ.จัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่ ที่มีรายละเอียดในกระบวนการค่อนข้างมาก แต่ปัจจุบันได้แก้ปัญหาต่างๆไปแล้ว และองค์การฯได้ทำการจัดส่งและกระจายวัคซีนฯล็อตแรกไปแล้วกว่า 90% โดยวัคซีนฯที่จัดหามาในครั้งนี้ส่วนหนึ่งผลิตจาก บริษัท องค์การเภสัชกรรม - เมอร์ริเออร์ ชีววัตถุ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนขององค์การเภสัชกรรม ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล ซึ่งการกระจายวัคซีนฯในครั้งนี้เพื่อให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมายที่ทางกระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ จึงมั่นใจได้ว่าประชาชนจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่อย่างแน่นอน
โดยในปีนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง 7กลุ่ม ซึ่งมีประมาณ 20-30% ของประชากรทั่วประเทศ ได้แก่ 1.) หญิงตั้งครรภ์ 2.) เด็กอายุ 6 เดือน-2 ปี 3.) ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัดและเบาหวาน 4.) บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป 5.) ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 6.) ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องและผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ และ 7.) ผู้ที่มีโรคอ้วน น้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือค่าดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่า 35กิโลกรัมต่อตารางเมตร ซึ่งสามารถเข้ารับบริการได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2561 ที่สถานบริการของกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น สำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่เข้าข่าย 7 กลุ่มเสี่ยงนั้น สามารถไปขอรับการฉีดวัคซีนได้ที่ รพ.ของรัฐและเอกชนทั่วประเทศ โดยวัคซีนฯมีราคาประมาณ โด๊สละ 300-400 บาทเท่านั้น และสามารถป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้เป็นเวลา 1 ปี โดยการฉีดวัคซีนในปีนี้สามารถป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ได้ 3 สายพันธุ์ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก คือ ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A Michigan (H1N1), สายพันธุ์ A Singapore (H3N2) และสายพันธุ์ B Phuket
“องค์การเภสัชกรรมเดินหน้ากระจายวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ให้แก่โรงพยาบาลและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงการให้บริการการฉีดวัคซีนฯได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม” ผู้อำนวยการกล่าว