BMW X5 xDrive45e iPerformance รถไฮบริด 394 แรงม้า แต่ประหยัดสุดๆ 47.62 กม./ลิตร

1775 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ภาพ : BMW Group

เรียบเรียง : Pitak Boon


BMW X5 xDrive45e iPerformance แตกไลน์มาจาก ‘X5 Mk. IV’ โมเดลล่าสุด ซึ่งใช้รหัส ‘G05’ ขึ้นต้นด้วยตัวอักษร ‘G’ เพื่อให้สอดรับกับรถโมเดลใหม่ของ BMW ทั้งหมด โดย know-how ในส่วนของระบบ Plug-in Hybrid ถูกถ่ายทอดมาจาก BMW i8 ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด เพราะลงตัวทั้งในเรื่องลดมลพิษ และความประหยัด ขณะที่เรื่องสมรรถนะก็ไม่ได้อ่อนด้อยตามรูปแบบรถประหยัดพลังงานทั่วไป ระบบไฮบริดระดับก้าวหน้าใน i8 จึงกลายเป็นองค์ความรู้หลัก ที่ถูกใช้เป็นพื้นฐานในการพัฒนารถไฮบริดโมเดลต่อมาของ BMW

X5 xDrive45e ขึ้นแท่น Plug-in Hybrid SAV (Sport Activity Vehicle) ที่ทรงพลังที่สุดจาก BMW เดิม X5 xDrive40e (บอดี้ก่อนหน้า F15) ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ พอมาเป็น X5 xDrive45e (G05) ได้ขยับมาเล่นกับเครื่องยนต์ 6 สูบ บล็อกสร้างชื่อในตระกูล BMW EfficientDynamics Drive ซึ่งถูกยกมาจาก X5 xDrive40i (G05) เพื่อมาทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า

X5 xDrive45e ใช้เครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 6 สูบ 2,998 ซีซี มาพร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo, ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงตรงเข้าห้องเผาไหม้ High Precision Injection Direct Injection, ระบบวาล์วแปรผัน VALVETRONIC และ Double-VANOS โดยเทอร์โบทั้ง 2 ตัว ถูกจัดวางในรูปแบบ Bi-turbo เทอร์โบ 1 ตัวรับผิดชอบ 3 สูบ เป็นเทอร์โบแบบ TwinScroll Turbochargers ในส่วนของเครื่องยนต์ให้พละกำลัง 210 kW/286 hp

มอเตอร์ไฟฟ้าถูกออกแบบไว้ภายในกระปุกเกียร์ Steptronic 8 สปีด มีขนาด 82 kW/112 hp แรงบิดสูงสุดจะมีมาให้ใช้งานเต็มๆ ตั้งแต่มอเตอร์เริ่มหมุน ซึ่งมากพอจะทำให้รถออกตัว และขับเคลื่อนได้โดยที่ไม่ต้องอาศัยกำลังจากเครื่องยนต์ ผลลัพธ์คือ กำลังรวมของระบบไฮบริดใน X5 xDrive45e อยู่ที่ 290 kW/394 hp แรงบิดสูงสุดของระบบมหาศาลถึง 600 Nm สมรรถนะเคลมจากโรงงาน X5 xDrive45e ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาระดับเดียวกับรถสปอร์ต 5.6 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกล็อกไว้ที่ 235 กม./ชม. ทั้งๆ ที่ X5 xDrive45e มีน้ำหนักตัวเปล่าไม่ต่ำกว่า 2.2 ตัน แต่ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยสวยหรูในระดับ 47.62 กิโลเมตร/ลิตร ปิดท้ายด้วยค่า CO2 ต่ำเพียง 49 กรัม/กิโลเมตร เท่านั้น

ระบบไฮบริดใน X5 xDrive45e มี 3 โหมดการขับขี่ ผู้ขับสามารถเลือกปรับได้จากปุ่มบริเวณคอนโซลเกียร์ ไล่จากบนลงล่าง เริ่มต้นที่โหมด Sport รถจะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมๆ กัน เพื่อเน้นสมรรถนะในการขับขี่สูงสุด ถัดมา Hybrid เป็นการผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อให้เกิดความประหยัดสูงสุด ในสภาพการขับขี่ปกติมอเตอร์ไฟฟ้าจะรับหน้าที่ขับเคลื่อนรถตั้งแต่ออกตัว จนกระทั่งถึงความเร็ว 70 กม./ชม. เครื่องยนต์จึงถูกสตาร์ทขึ้นเพื่อมารับช่วงต่อ สำหรับกรณีที่ผู้ขับต้องการการออกตัวที่รวดเร็ว ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำงานพร้อมกันได้ในทันที ปิดท้ายด้วย Electric จะเป็นโหมดการขับเคลื่อนแบบไร้มลพิษ ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในเมืองใหญ่ที่เข้มงวดเรื่องมลพิษ มอเตอร์ไฟฟ้าจะขับเคลื่อนรถเพียงลำพัง สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 140 กม./ชม. (เดิม 120 กม./ชม.) แต่วิ่งใช้งานได้ไม่เกิน 80 กิโลเมตร (เดิม 31 กิโลเมตร) และระยะทางอาจสั้นกว่านี้ ตามระดับในการใช้คันเร่ง

BMW ทำให้การชาร์จไฟของรถกลุ่ม Plug-in Hybrid ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นตามลำดับ เป็นเรื่องง่ายด้วยเทคโนโลยี BMW 360º ELECTRIC ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน BMW i Wallbox Pure เป็นสถานีจ่ายไฟสาธารณะ ที่ติดตั้งไว้ตามลานจอดรถ, อาคารจอดรถ และปั๊มน้ำมัน เพื่อรองรับการชาร์จไฟแบบรวดเร็ว แบตเต็ม 100% ได้ภายใน 2 ชั่วโมง 45 นาที และ BMW i Wallbox Pro ติดตั้งในโรงรถ สำหรับการชาร์จทิ้งไว้ทั้งคืนที่บ้าน

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้