BMW 745Le xDrive || เวอร์ชัน Plug-in Hybrid กำลังรวม 290 kW/394 hp

ภาพและภาพยนตร์ : BMW Group
เรียบเรียง : Pitak Boon

BMW 7 Series G11/G12 โมเดลปี 2020 (LCI) ได้รับการขยายระยะฐานล้อ เพิ่มขึ้น 14 มิลลิเมตร ส่งผลให้ 7 Series ทั้งรุ่นตัวถังปกติ และรุ่น LWB มีความยาวตัวถังรวม เพิ่มขึ้นอีกถึง 22 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับ G11/G12 โฉมก่อนไมเนอร์เชนจ์ จากนั้น BMW พร้อมยกระดับความไฮคลาสในทุกรายละเอียด และที่โดดเด่นที่สุด เป็นการขยายขนาดกระจังหน้า Kidney Grille เพื่อให้ได้ภาพลักษณ์เดียวกับ BMW X7 (G07) ซึ่งเป็นพี่ใหญ่ในสาย SAV

745Le xDrive โมเดลปี 2020 คือรถ Plug-in Hybrid ระดับเรือธงประจำค่ายที่ถูกต่อยอดมาจาก 740Le xDrive iPerformance ซึ่งเป็นรุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์ หลังจากได้เห็นข้อมูลเปิดตัวของ 745Le xDrive ต้องบอกว่า รถไฮบริดทุกโมเดลก่อนหน้าดูเป็นอดีตไปอย่างรวดเร็ว เพราะ 745Le xDrive ให้สมรรถนะที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น เริ่มต้นที่ค่า CO2 ต่ำสุดๆ ระดับ 57-52 กรัม/กิโลเมตร พร้อมอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 40.00-43.47 กิโลเมตร/ลิตร วิศวกร BMW กดตัวเลขได้ต่ำมาก เมื่อเทียบกับความเป็นลีมูซีนที่จัดเต็มเรื่องความหรูหรา

ต้นกำลังหลักของ 740Le xDrive iPerformance เป็นเครื่องยนต์เบนซินบล็อกพื้นฐานของ BMW แบบแถวเรียง 4 สูบ ขนาดความจุ 1,997 ซีซี ขณะที่ 745Le xDrive ขยับขึ้นไปเล่นกับเครื่องยนต์แถวเรียง 6 สูบ ขนาด 2,998 ซีซี อัพพลังต่อด้วยเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo สำหรับเทอร์โบทั้ง 2 ตัว ถูกจัดวางในรูปแบบ Bi-turbo เทอร์โบ 1 ตัวรับผิดชอบ 3 สูบ เป็นเทอร์โบแบบ TwinScroll Turbochargers เมื่อภาระงานของเทอร์โบแต่ละตัวมีไม่มาก ผลงานจึงเด่นชัดโดยเฉพาะในเรื่องแรงบิด มาพร้อมระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงตรงเข้าห้องเผาไหม้ High Precision Injection, ระบบ Double VANOS ปิดท้ายด้วยระบบ VALVETRONIC สร้างแรงม้าได้ 286 hp (210 kW) ที่ 5,000-6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 Nm ที่ 1,500-3,500 รอบ/นาที โดยแรงม้าและแรงบิดทั้งหมด จะถูกส่งผ่านเกียร์ Steptronic 8 สปีด เพื่อส่งกำลังไปขับเคลื่อนล้อทั้งสี่ผ่านระบบ xDrive

ภายในกระปุกเกียร์ เป็นที่อยู่ของมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 113 hp (83 kW) ที่ 3,170 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 265 Nm ที่ 0-2,700 รอบ/นาที กำลังรวมจากรถบบไฮบริดของ 745Le xDrive อยู่ที่ 394 hp (290 kW) แรงบิดรวม 600 Nm รถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่ถูกส่งมาจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน แบบ High-voltage ขนาด 12.0 kWh ที่ถูกซ่อนไว้ใต้เบาะนั่งด้านหลัง เมื่อแบตเต็มการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ ใน ELECTRIC Mode จะวิ่งได้ไกลถึง 51-54 กิโลเมตร โดยตัวมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 140 กม./ชม.

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 5.1 วินาที รถจะเริ่มออกตัวด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และถูกเสริมแรงต่อด้วยเครื่องยนต์ แต่หากขับในสถาการณ์ปกติมอเตอร์ไฟฟ้าจะขับเคลื่อนรถไปจนถึงความเร็ว 110 กม./ชม. ก่อนที่เครื่องยนต์จะถูกสตาร์ทขึ้นเพื่อรับช่วงต่อ

ระบบต่างๆ ในส่วนของแชสซี เริ่มที่ระบบ Integral Active Steering (IAS) นอกจากเรื่องปรับเปลี่ยนอัตราทดของพวงมาลัย ให้สัมพันธ์กับความเร็วรถแล้ว ระบบ IAS ยังเป็นการใช้ระบบบังคับเลี้ยวทั้ง 4 ล้อ เพื่อช่วยลดรัศมีในการเลี้ยว และการถอยจอดในซองแคบๆ ซึ่งสร้างปัญหาให้กับรถลีมูซีนที่มีตัวถังยาวเกินกว่า 5 เมตร เป็นอย่างยิ่ง (745Le xDrive ยาว 5,260 มิลลิเมตร) และอีกจุดเด่นหนึ่งคือช่วยให้ล้อทั้งสี่ตั้งฉากกับผิวถนน หรือสัมผัสถนนมากที่สุดในขณะเข้าโค้ง

พื้นฐานโครงสร้างของระบบกันสะเทือน ด้านหน้าใช้ Double-wishbone ส่วนด้านหลังใช้ Five-link ที่ให้คุณสมบัติด้านความนุ่มนวลและเกาะถนน การออกแบบจัดวางโครงสร้างช่วงล่างลงตัวตามหลักเรขาคณิต ส่งผลให้ช่วงล่างด้านหน้ามีความสามารถด้าน Anti-dive หรือลดอาการหน้าทิ่มกรณีเหยียบเบรกกะทันหัน ส่วนคุณสมบัติของช่วงล่างด้านหลังประกอบด้วย Anti-squat และ Anti-dive คือลดทั้งอาการท้ายยก และท้ายยุบ ขณะเบรกและออกตัวอย่างรุนแรง ตามลำดับ ปิดท้ายด้วยการใช้ช่วงล่างแบบถุงลม (Air Suspension) ในการรักษาระดับของตัวถัง ไม่ว่าจะขับขี่ในรูปแบบใด เช่น บรรทุกหนัก เข้าโค้ง หรือแม้ขณะทั่งการเร่ง และเบรกอย่างรุนแรง อยู่ที่ รองรับทั้งความนุ่มนวล และความหนึบแน่น แปรผันไปตามความเร็วรถ

เทคโนโลยี Plug-in Hybrid สามารถตอบโจทย์รถในทุกกลุ่ม และทุกขนาดตัวถัง นับตั้งแต่ รถขนาดเล็ก รถหรู ไล่ไปจนถึง SUV โดดเด่นด้วยความประหยัด และลดพิษ การพัฒนาสเต็ปต่อไป ยังคงยึดมั่นในแนวคิดเดิม แต่เติมเต็มเรื่องสมรรถนะเข้าไป แม้จะประหยัดและปล่อยมลพิษเพียงน้อยนิด ก็สามารถแรงได้ไม่เป็นรองรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สมรรถนะสูงอีกต่อไป