5240 จำนวนผู้เข้าชม |
สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.)เผยรายชื่อรถยนต์10 รุ่น เตรียมลุ้นคว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2559 หรือ THAILAND CAR OF THE YEAR 2016 นายกสมาคมฯ ระบุรางวัลยังคงมีเพียงหนึ่งเดียว เผยการจัดสินปีที่ 2 ปรับเปลี่ยน เกณฑ์พิจารณาเพื่อความยุติธรรมและโปร่งใส
นายยุทธพงษ์ ภาษี นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) (THAI AUTOMOTIVE JOURNALISTS ASSOCIATION) เผยว่า สรยท. มุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ ให้มีความก้าวหน้า รวมถึงต้องการมีส่วนนำเสนอข้อมูลเพื่อผู้บริโภค สำหรับใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันยังมีส่วนส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้ก้าวหน้าเทียบเคียงสากลประเทศและสอดคล้องกับการขยายบทบาทของไทยในฐานะฐานการผลิตสำคัญของโลก
ขณะนี้สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย ได้จัดทำโครงการคัดเลือกรถยนต์ดีเด่นแห่งปี เพื่อมอบรางวัลสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ โดย “รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี หรือ Thailand car of the year” เริ่มต้นคัดเลือกรถ เพื่อมอบรางวัลเป็นครั้งที่2
ทั้งนี้สมาคมฯ ได้ริเริ่มจัดการมอบรางวัลครั้งแรกขึ้นในปี 2558 และกำหนดให้จัดกิจกรรมนี้เป็นทุกปี ซึ่งทางสมาคมฯ จะกำหนดระเบียบและวิธีการคัดเลือกเพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ให้สมาชิกฯที่เป็นผู้สื่อข่าวราว 300 คนได้ร่วมตัดสินคัดเลือกรางวัลดังกล่าว
สำหรับการคัดเลือกครั้งที่ 2 นี้มีรถยนต์ที่ผ่านตามคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ รวม 10 รุ่นด้วยกัน ซึ่งแต่ละคันมีจุดเด่นและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน และการพิจารณาในปีนี้สมาคมฯ ได้มีการปรับเปลี่ยนการให้คะแนนเพื่อให้เกิดความยุติธรรมและโปร่งใส
“เรายังคงยึดหลักเกณฑ์ของการมอบรางวัลรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี ของสมาคมฯ คือ การมี 'รถยนต์ยอดเยี่ยมเพียงคันเดียว' เป็นคันที่ดีที่สุดโดยไม่แบ่งชนิดและประเภทรถ ซึ่งกรรมการต้องพิจารณาอย่างเข้มข้นและรอบครอบมากที่สุด ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ นอกจากนี้เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมในประเทศ สมาคมฯ ยังคงจำกัดเงื่อนไขของรถที่จะเข้าคุณสมบัติโดยยังกำหนดให้พิจารณาเฉพาะรถยนต์ประกอบในประเทศเท่านั้น โดยไม่นำรถยนต์นำเข้าสำเร็จรูปมาร่วมพิจารณา” นายุทธพงษ์ กล่าว
หลักเกณฑ์ทั่วไปในการคัดเลือกรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี ต้องเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ (Model Change) ที่เปิดตัวแนะนำผลิตภัณฑ์สู่ตลาดในช่วง 12 เดือนตามที่คณะกรรมการกำหนด โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 58 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 59, เป็นรถยนต์ที่เปิดตัวแนะนำ (Official Launching) โดยตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศราคาขายอย่างเป็นทางการ, เป็นรถยนต์ที่ประกอบในประเทศ (CKD) กรณีที่ผู้ผลิตเปลี่ยนการผลิตจากรถ CBU เป็นรถ CKD ให้ถือการ Re-launch รถยนต์ประกอบในประเทศ (CKD, SKD) เป็นการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่
ทั้งนี้ ในการคัดเลือกรอบแรกได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยสมาชิกสมาคมฯ จะมีการส่งคะแนนมาให้คณะกรรมการภายในวันที่ 15 มกราคม 2560 ส่วนการตัดสินและประกาศรางวัลในรอบสุดท้ายจะมีขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2560
ขั้นตอนการตัดสินรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี ของคณะกรรมการแบ่งการคัดเลือกออกเป็น 2 รอบดังนี้
รอบแรก (First Round)
คณะกรรมการ ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกของสมาคมฯจะเลือกรถยนต์ที่เข้าคุณสมบัติ (Qualify) ครึ่งหนึ่งของจำนวนที่เข้ารอบทั้งหมด (เช่นรถยนต์เข้ารอบสุดท้าย 10 คัน ให้เลือกเพียง 5 คัน) แต่ถ้ามีเศษให้ปัดขึ้น โดยรถยนต์ที่ถูกเลือกจะได้รับคันละหนึ่งคะแนน ต่อกรรมการหนึ่งท่าน และเมื่อได้ผลการคัดเลือกแล้ว ให้นำรถทั้งหมดที่เข้าคุณสมบัติ (Qualify)ไปลงคะแนนในรอบต่อไป
รอบตัดสิน (Final Round)
คณะกรรมการ ซึ่งประกอบไปด้วย สมาชิกสมาคมที่ผ่านคุณสมบัติ การเป็นกรรมกาตัดสินไม่น้อยกว่า 25 คน จะพิจารณาตัดสินรถที่ผ่านการคัดเลือกจากรอบแรกให้ได้รับรางวัลเพียง 1 คันเท่านั้น โดยหลักเกณฑ์คือ คณะกรรมการแต่ละคนจะมีคะแนนอยู่ 25 คะแนน กรรมการจะต้องให้คะแนนอย่างน้อย 5 คัน คันใดที่กรรมการพิจารณาตามองค์ประกอบแล้วชื่นชอบที่สุดจะต้องให้คันนั้น 10 คะแนน ส่วนที่เหลืออีก 15 คะแนนให้กระจายไปยังรถคันอื่น ห้ามมิให้คะแนนเต็ม 10 เท่ากับรถที่เลือกไว้ในลำดับแรก
ทั้งนี้ ในการพิจารณารางวัลครั้งที่ 2 นี้ สมาคมฯ ได้จัดทำข้อมูลของรถยนต์ที่ผ่านตามคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2559 รวม 10 รุ่นได้แก่
1.มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 (Mazda CX-3)
เปิดตัววันที่ 10 พฤศจิกายน 2558 : ครอสโอเวอร์ขนาดกะทัดรัดรุ่นใหม่ ถือเป็นการเสริมทัพต่อจากรุ่นพี่ “ซีเอ็กซ์-5” โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร และเบนซิน 2.0 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
2.เอ็มจี5 (MG5)
เปิดตัววันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 : เก๋งระดับซับคอมแพกต์รุ่นใหม่ของเอ็มจีมากับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ และ 1.5 ลิตร ที่ไร้ระบบอัดอากาศ เน้นจุดขายที่ออปชันอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยแบบจัดเต็ม พร้อม “อินคาเน็ต” (inkaNET) ระบบการสื่อสารและเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สาย
3.บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีย์ 7
BMW 7 Seriesรุ่น 730Ldเปิดตัววันที่ 1 ธันวาคม 2558 (รุ่นประกอบในประเทศ) : รถยนต์รุ่นธงของบีเอ็มดับเบิลยู ที่มาพร้อมความหรูหราและออปชันอำนวยความสะดวกทันสมัย วางเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ 3.0 ลิตร เทอร์โบ 265 แรงม้า ประกบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 6.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
4.ฮอนด้า บีอาร์-วี (Honda BR-V)
เปิดตัววันที่ 28 มกราคม 2559 : ครอสโอเวอร์ระดับเริ่มต้นของฮอนด้า แบ่งการทำตลาดเป็นสองรุ่นย่อยคือ รุ่น 5 ที่นั่ง และรุ่น 7 ที่นั่ง (เป็นตัวท็อป) วางเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 117 แรงม้า บล็อกเดียวกับฮอนด้าแจ๊ซ/ซิตี้ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT
5.ทีอาร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์ 2 (TR Transformer 2)
เปิดตัววันที่ 11 มีนาคม 2559 : อีกหนึ่งผลผลิตชิ้นโบแดงของ “ไทยรุ่ง” ค่ายรถยนต์แบรนด์ไทย โดยเอสยูวีรุ่นนี้พัฒนาต่อเนื่องเป็นเจเนอเรชันที่ 2 ใช้พื้นฐานมาจากปิกอัพ “โตโยต้า รีโว่” ขุมพลังดีเซล 1GD ขนาด 2.8 ลิตร แต่ตีตัวถังใหม่ให้ออกแนวบึกบึน
6.ฮอนด้า ซีวิค (Honda Civic)
เปิดตัววันที่ 11 มีนาคม 2559 : ซีวิค เจเนอเรชันที่ 10 มีรูปลักษณ์ที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยวสไตล์คูเป้หลังคาเตี้ยเสาซีลาดเอียง ขณะที่เครื่องยนต์ยังใช้บล็อกใหม่ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ทำตลาดคู่กับเครื่องยนต์เดิม 1.8 ลิตร และเปลี่ยนระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT
7.เอ็มจี จีเอส (MG GS)
เปิดตัววันที่ 17 มีนาคม 2559 : เอสยูวี/ครอสโอเวอร์ รุ่นแรกของแบรนด์เอ็มจี มีความโดดเด่นด้วยออปชันทันสมัย พร้อม “อินคาเน็ต” (inkaNET) ระบบการสื่อสารและเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สาย ที่รองรับการทำงานได้หลากหลาย ขณะที่เครื่องยนต์ประเดิมด้วยเบนซิน ไดเรกอินเจกชัน เทอร์โบ 2.0 ลิตร 218 แรงม้า ประกบเกียร์คลัทช์คู่ 6 สปีด มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
8.บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์1 (BMW X1)
รุ่น sDrive18i และ 18d เปิดตัววันที่ 1 กรกฎาคม 2559 (รุ่นประกอบในประเทศ) : เอสยูวีระดับเริ่มต้นของบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งโฉมใหม่เจเนอเรชันที่สองเปลี่ยนมาเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า หวังเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสาร ความยาวตัวรถสั้นลง 15 มม. มีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และเบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
9.เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี (Mercedes-Benz GLC)
รุ่น 250d 4MATIC เปิดตัววันที่ 1 กรกฎาคม 2559 (รุ่นประกอบในประเทศ) : เป็นการเติมเต็มเอสยูวีให้ครบไลน์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย หลังจาก GLK เปลี่ยนโฉมและใช้ชื่อใหม่เป็น GLC กับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.1 ลิตร เทอร์โบคู่ 204 แรงม้า ส่งกำลังลงสู่ล้อหลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด
10.เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลอี (Mercedes-Benz GLE)
รุ่น 500e 4MATIC เปิดตัววันที่ 3 สิงหาคม 2559 (รุ่นประกอบในประเทศ) : เมอร์เซเดส-เบนซ์ เพิ่มทางเลือกให้เอสยูวีร่างยักษ์ด้วยรุ่นปลั๊ก-อิน ไฮบริด มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน วี6 ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ 333 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 116 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 5.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 245 กม./ชม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด เมื่อชาร์จไฟให้แบตเตอรีแบบลิเธียมไอออนจนเต็มในเวลา 4 ชั่วโมง รถสามารถวิ่งด้วยระบบไฟฟ้าล้วน ๆ ได้ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร
พบกับกิจกรรมดี ๆ สำหรับสมาชิกสมาคม และสามารถติดตามข่าวสารของสมาคมฯ ได้ที่ www.tajathailand.com