มิตซูบิชิ เอกซ์แพนเดอร์ ครอสโอเวอร์ที่น่าจับตามอง

885 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เรื่อง : อัฐฒา นายเรือ

ภาพ : MITSUBISHI

 

หลังจากที่กระแสข่าวของ มิตซูบิชิ เอกซ์แพนเดอร์ ครอสโอเวอร์ 7 ที่นั่ง ได้สร้างความน่าสนใจให้กับบรรดาผู้สื่อข่าวและผู้บริโภคมาเป็นเวลานานพอสมควร ก็ได้เวลาที่เราจะได้มาทดลองขับรถอเนกประสงค์ที่นำเข้ามาจากอินโดนีเซียทั้งคันให้หายข้องใจกันเสียที ซึ่งการเดินทางทดสอบสมรรถนะ การใช้งานของเอกซ์แพนเดอร์นี้ ถือว่าพวกเรามีโอกาสได้ขับเป็นกลุ่มแรกๆ ในเมืองไทย โดยที่ขณะทำการทดลองขับกันมีวิ่งกันอยู่แค่ 6 คันนี้เท่านั้น ตามโชว์รูมยังไม่มีรถไปจอดเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ยลโฉมกันเลย

ทริพทดลองขับ มิตซูบิชิ เอกซ์แพนเดอร์ อันยาวไกลในครั้งนี้เริ่มสตาร์ทที่จังหวัดเชียงราย ล่องลงมายัง พะเยา แพร่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ขอนแก่น บุรีรัมย์ ฉะเชิงเทรา กทม. ปทุมธานี อยุธยา นครสวรรค์ สมุทรสาคร เพชรบุรี ระนอง ชุมพร จนวิ่งมาจบทริพที่ สุราษฎร์ธานี เป็นระยะทางกว่า 3,000 กม. ขับโดยผู้สื่อข่าว 6 ชุดด้วยกัน เราได้มาขับในกลุ่มสุดท้ายในช่วง ชุมพร – สุราษฎร์ธานี กับระยะทางแค่ 200 กว่ากม. โดยมีสภาพเส้นทางหลากหลายรูปแบบทั้งบนทางหลวงตรงๆ ที่สามารถใช้ความเร็วในการเดินทาง บนเส้นทางรองที่มีรถสวน ถนนแคบ มีโค้งหลากหลายรูปแบบ บางช่วงสภาพถนนไม่ค่อยดีนัก ฯลฯ ตลอดช่วงที่เราได้ขับและได้นั่งโดยสารกันนี้ สามารถให้ข้อมูลในการใช้งานของ เอกซ์แพนเดอร์ ได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกับผู้ซื้อที่จะนำรถมาขับในสภาพการใช้งานจริง

ทางมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จะนำเอกซ์แพนเดอร์เข้ามาจำหน่ายในเมืองไทย 2 รุ่นคือ ตัวล่าง GLS-LTD ภายในสีดำ เบาะผ้า ล้ออัลลอย 15 นิ้ว ฯลฯ ส่วนรุ่นทอพ GT จะให้ล้ออัลลอย ทูโทน 16 นิ้ว วิทยุมาพร้อมจอแบบสัมผัสขนาด 4.2 นิ้ว มีระบบครูส คอนโทรล มาให้ด้วย เบาะเป็นหนังไวนิล ฯลฯ  รุ่นที่เราทดลองขับกันจะเป็นรุ่นทอพ GT ทั้งหมด ในรถรุ่นนี้ทางมิตซูบิชิได้ส่งเจ้าหน้าที่จากญี่ปุ่นและไทยไปช่วยในการผลิตรถให้ตรงกับความต้องการของตลาดให้มากที่สุด รวมไปถึงการควบคุมคุณภาพให้อยู่ในมาตรฐานของมิตซูบิชิที่ญี่ปุ่น จึงมั่นใจได้ว่าแม้จะผลิตที่อินโดนีเซียแต่รายละเอียดต่างๆ ของรถรุ่นนี้ได้มาตรฐานแน่นอน  

ทริพของเราเริ่มออกเดินทางกันที่โชว์รูมมิตซูบิชิชุมพร วิ่งตามถนนในตัวเมือง จุดแรกเราจะไปยังวัดเจ้าฟ้าศาลาลอยเพื่อไหว้สักการะหลวงปู่สงฆ์ และเดินทางต่อไปยังหาดทรายรี เพื่อสักการะกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ อันเป็นที่เคารพนับถือของชาวชุมพรและชาวไทยทั้งหลาย จากนั้นเราก็จะวิ่งกันยาวๆ เพื่อไปรับประทานอาหารกลางวันกันแถวปากน้ำหลังสวน ชุมพร

สัมผัสแรก เอกซ์แพนเดอร์ เป็นรถครอสโอเวอร์ 7 ที่นั่งที่มีรูปทรงล้ำสมัย สะดุดตา แฝงไว้ด้วยความสปอร์ท ขนาดตัวกะทัดรัด แลดูมีส่วนคล้ายกับรุ่น สเปซแวกอน ของมิตซูบิชิในอดีต เมื่อเข้ามานั่งภายในห้องโดยสาร เอกซ์แพนเดอร์มีพื้นที่ภายในที่กว้างขวางกว่าที่คิดไว้ ถือได้ว่ากว้างที่สุดในบรรดารถระดับเดียวกัน วัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในมีคุณภาพดีทีเดียว การออกแบบสวยงาม อุปกรณ์ต่างๆ บนแผงหน้าปัดใช้งานได้สะดวก ติดตั้งสวิทช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงอยู่ที่พวงมาลัยด้วย แผงหน้าปัดช่วงกลางติดตั้งจอแสดงผลข้อมูลแบบสามมิติ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ช่องเสียบชาร์จไฟสำหรับอุปกรณ์อีเลคทรอนิคต่างๆ มีช่องแอร์พร้อมปุ่มควบคุมระดับการทำงานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง มีที่วางสัมภาระกระจุกกระจิกรอบคันรอบ ที่ด้านหลังเบาะคู่หน้ามีช่องเสียบหนังสือมาให้ด้วย  ความเย็นของเครื่องปรับอากาศเป็นไปอย่างทั่วถึงทั้งคัน เบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 ปรับได้หลายรูปแบบเพื่อเพิ่มความอเนกประสงค์ตามความต้องการใช้งาน

เท่าที่นั่งเป็นผู้โดยสารเบาะแถวที่ 2 รู้สึกได้เลยว่า ภายในมีพื้นที่กว้าง นั่งสบาย และที่สำคัญคือ ที่นั่งแถวที่ 3 มีพื้นที่เพียงพอสำหรับผู้ใหญ่ 2 ท่านนั่งได้อย่างจริงจัง เพียงแต่ว่าถ้าจะให้สบายขึ้นควรปรับที่นั่งแถวสองเลื่อนไปข้างหน้าเล็กน้อย เฉลี่ยพื้นที่กัน ก็จะสามารถทำให้ผู้โดยสารทุกท่านในเบาะตอนที่ 2 และ 3 มีความสะดวกสบายพอที่จะนั่งเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะการเดินทางไกลได้โดยไม่เมื่อยล้าหรือรู้สึกอึดอัด

หลังจากที่เรารับประทานอาหารกลางวันเป็นที่เรียบร้อย ผมก็ได้ย้ายตำแหน่งมาเป็นผู้ขับขี่บ้าง  สิ่งที่รู้สึกได้คือ ทัศนวิสัยที่ชัดเจนบริเวณกระจกบังลมด้านหน้า โดยเฉพาะมุมเสา เอ ซ้าย-ขวา ทำได้ดีมากๆ ลบมุมบอดออกไปได้เป็นอย่างดี พวงมาลัยมีระบบช่วยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้าที่สามารถปรับได้ทั้งระยะและระดับ สูง-ต่ำ ให้น้ำหนักที่กำลังดี ไม่เบาเกินไปในขณะใช้ความเร็วสูง ตัวรถมีขนาดกะทัดรัด ควบคุมง่าย การเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกทำได้ดีแม้ว่าจะมีเสียงลมด้านข้างอยู่บ้างจากการที่กระจกมองข้าง ซ้าย-ขวา มีขนาดค่อนข้างใหญ่เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการมองด้านข้างรถ

เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC MIVEC 16 วาล์ว ที่ให้กำลัง 105 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตัน-ม. ที่ 4,000 รตน. เพียงพอต่อการแบกน้ำหนักตัวรถพร้อมผู้โดยสารตัวโตๆ อีก 4 ท่าน เดินทางไกลได้อย่างสบาย อัตราเร่งเป็นไปแบบค่อยเป็นค่อยไป เหมาะกับการใช้งานแบบครอบครัว บางช่วงเราเดินทางกันด้วยความเร็ว 120 – 140 กม./ชม. แม้ว่าจะใช้เกียร์อัตโนมัติแบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ 4 สปีด แต่ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ใช้รอบที่ 2,500 รตน. ที่ 120 กม./ชม. 3,000 รตน. รอบเครื่องยนต์แม้ว่าจะไม่ต่ำเหมือนบรรดารถที่ใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง รอบไม่สูงจนเกินไป การขับขึ้นเขาที่ค่อนข้างลาดชันในบางช่วงของการเดินทางยังคงเป็นไปด้วยดี แต่ในขณะที่เราต้องการเร่งแซง เกียร์จะคิดดาวน์ลงเกียร์ต่ำบ่อยเนื่องจากกำลังเครื่องไม่ถึงกับเหลือเฟือ มีส่วนทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่บ้าง การเดินทางไกลที่ความเร็วช่วง 90-120 กม./ชม. โดยมีผู้โดยสาร 4 คนพร้อมสัมภาระ อัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 11-13 กม./ลิตร ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง เอกซ์แพนเดอร์ไม่ใช่รถที่ประหยัดน้ำมันดีเลิศจนน่าประทับใจ แต่ก็ไม่กินน้ำมันจนใช้งานไม่ไหว โดยเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานโดยทั่วๆ ไป ถ้าจะให้ประหยัดน้ำมันกว่านี้คงต้องหันไปคบเครื่องยนต์ที่มีความจุมากขึ้น มีอัตราทดเกียร์เพิ่มขึ้นหรือหันไปใช้ CVT แต่หลายๆ สิ่งที่เพิ่มเข้ามานี้เพื่อแลกกับตัวเลขความสิ้นเปลืองที่ดีขึ้น แต่ก็จะทำให้ราคาตัวรถเพิ่มสูงขึ้นไปด้วยอย่างแน่นอนซึ่งอาจมีผลต่อยอดขายตามไปด้วย 

             

ที่น่าจะกล่าวถึงอีกหัวข้อหนึ่งคือระบบรองรับแบบแมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลงด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชันบีม บางชิ้นส่วนของโช้คอัพนำมาจากรุ่น อีโวลูชัน เอกซ์ ด้วย ให้การควบคุมบังคับที่ดี นุ่มนวล ในช่วงการเข้าโค้ง การขับที่ความเร็วสูง การควบคุมรถยังคงเป็นไปด้วยดี ไม่มีข้อกังขาในหัวข้อนี้ การเซทระบบรองรับไม่ถึงกับสปอร์ท ที่เฉียบคมในการเข้าโค้ง แต่เน้นนุ่มหนึบ นั่งสบาย มากกว่า ระบบห้ามล้อ ด้านหน้าแบบจาน ด้านหลังแบบดุม มาพร้อมระบบเอบีเอส ให้การหยุดความเร็วเป็นไปด้วยดีตลอดเส้นทางกว่า 200 กม. ที่เราได้ลองขับกัน นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว, ระบบป้องกันการลื่นไถล, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรคแบบอีเลคทรอนิค พร้อมระบบเสริมแรงเบรก, ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน, ถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารคู่หน้า, เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและระบบผ่อนแรงโดยอัตโนมัติ 3 จุด 2 ตำแหน่ง ในรุ่นสูงสุดติดตั้งกล้องมองภาพด้านหลังมาให้ด้วย ถือว่าอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยให้มาอย่างครบครันสำหรับรถยนต์ระดับนี้

ระยะทางกว่า 200 กม. เราสิ้นสุดการเดินทางกันที่ มิตซูบิชิ สุราษฎร์ธานี เราได้มีโอกาสเป็นทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เอกซ์แพนเดอร์ เป็นครอสโอเวอร์ที่ให้อรรถประโยชน์มากกว่าเอมพีวีโดยทั่วไปแถมยังสามารถขึ้นไปเทียบชั้นกับพีพีวีในบางรุ่นอีกด้วย ให้ความสะดวกสบายสูง การขับขี่เป็นไปด้วยดี เครื่องยนต์อาจจะไม่แรงมากมายแต่เพียงพอต่อการใช้งานแบบไม่เร่งรีบนัก เดินทางไกลได้อย่างสบายๆ เพียงแต่ในจังหวะที่ต้องการความรวดเร็วในการเร่งแซงอาจต้องใช้เวลาอยู่บ้างไม่ถึงกับกดปุ๊บมาปั๊บ แต่สำหรับการใช้งานรวมๆ โดยทั่วไป ถือว่าเป็นรถที่ใช้งานได้ดี ภายในกว้างขวาง การควบคุมบังคับทำได้ดี ระบบรองรับมั่นคง นุ่มนวล ทำให้ไม่เครียดในขณะเดินทางไกล อัตราสิ้นเปลืองอยู่ในเกณฑ์ปานกลางไปในทางที่ค่อนข้างดี ถ้าขับแบบเนียนๆ ไปยาวๆ ไม่ต้องเร่งแซงบ่อย ตัวเลข 15 กม./ลิตร มีให้เห็นแน่นอนแม้ว่าจะต้องแบกน้ำหนักผุ้ใหญ่ 4 คน พร้อมสัมภาระก็ตาม

ยอดขายจะไปได้ดีแค่ไหนขึ้นกับราคาที่จะทำการเปิดตัวในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ ในงาน BIG MOTOR SALE 2018 ที่ไบเทค ถ้าราคาโดนใจผู้บริโภคส่วนใหญ่ ยอดขายก็จะทำได้ทะลุเป้าที่วางไว้อย่างแน่นอน และขึ้นกับว่าทางอินโดนีเซียจะสามารถส่งรถให้ไทยได้ทันต่อความต้องการของผู้ซื้อชาวไทยหรือไม่ ส่วนในเรื่องคุณภาพรถ การขับขี่ ฯลฯ ไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้แล้วครับ รอในเรื่องของราคาเพียงอย่างเดียวก็พอจะทำให้ตัดสินใจได้ว่าจะซื้อหรือไม่เท่านั้นเอง      

ขอขอบคุณ  : ทีมงานมิตซูบิชิและผู้เกียวข้องทุกท่านที่อำนวยความสะดวกให้กับเราตลอดการเดินทางทดลองขับรถในครั้งนี้ครับ      

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้